จากคลิปวีดีโอ Mutual Fund Investment ตอน เลือกกองทุนหุ้น Active Fund มีข้อสงสัยค่ะ

เช่นกอง A ผลตอบแทน น้อยกว่า SET 50 TRI อยู่ไม่มาก แต่ปันผล ประมาณ 4 ครั้ง/ปี
กับ กอง B ผลตอบแทน มากกว่า SET 50 TRI แต่ปันผล 1 ครั้ง/ปี

เราต้องพิจารณาเรื่องจำนวนครั้งในการจ่ายปันผล เพื่อช่วยในการตัดสินใจเลือกด้วยไหมคะ ?


คำตอบ

ผมแนะนำให้แยกเป็น 2 ส่วนนะครับ

1. ในส่วนของการพิจารณา “ฝีมือ” ของกองทุน

ผมอยากให้มอง “ผลตอบแทนรวม” เป็นหลัก เพราะนั่นคือผลสุทธิของทั้งเงินปันผล + Capital Gain รวมกัน

ผมสมมติอย่างนี้ครับ ว่าถ้าใน 1 ปีที่ผ่านมา

กอง ก. ปันผล 5% ของราคาที่เราซื้อ และถือมา 1 ปี ยังได้ Capital Gain จาก NAV อีก 10%
รวมแล้วก็ได้กำไรประมาณ 15%

ส่วนกอง ข. ซึ่งเป็นกองประเภทเดียวกัน ปันผล 10% ของราคาที่เราซื้อ
แต่ได้ Capital Gain จาก NAV น้อยกว่าคือได้แค่ 3% รวมแล้วได้ผลตอบแทนรวมประมาณ 13%

สองกองนี้กอง ก. จะมีฝีมือที่ดีกว่า แต่กอง ข. จะปันผลมากกว่า

ถามว่าควรเลือกกองไหน ถ้าเป็นผม ผมมองที่ภาพรวม ผมคงเลือกกอง ก. ครับ


2. ในส่วนของความถี่การจ่ายเงินปันผล

ถ้าเป้าประสงค์หลักของการลงทุนของเรา คือต้องการเงินปันผลมาใช้จ่าย
(โดยไม่อยากจะสั่งขายกองมาใช้จ่ายด้วยตัวเอง)

ตรงนี้ก็คงต้องเลือกว่า นโยบายจ่ายปันผลแบบไหนที่เหมาะกับเรา

บางคนก็ชอบให้จ่ายบ่อยๆ จะได้นำมาใช้ได้เป็นระยะๆ

บางคนก็บอกว่าจ่ายครั้งเดียวก็โอเค เพราะอาจจะจ่ายต่อครั้งได้มากกว่ากองที่จ่ายบ่อยๆ
และพอจ่ายมาเค้าก็เอามาใส่ออมทรัพย์ไว้ทยอยใช้

แต่อย่าลืมว่านโยบายการจ่ายปันผลบ่อยครั้ง หรือ น้อยครั้ง หรือไม่จ่ายปันผล
ไม่ได้เป็นตัวชี้วัดฝีมือการบริหารกองนะครับ

นโยบายการจ่ายเงินปันผลของกองทุน เป็นเพียงวิธีการหนึ่งของการคืนผลกำไรให้กับนักลงทุนเท่านั้น
สิ่งสำคัญคือ “กำไรโดยรวม” ที่กองทุนหามาได้ต่างหาก

และส่วนตัว ผมเห็นว่าสำหรับบุคคลธรรมดานั้น 
การเลือกรับเงินปันผล เป็นวิธีที่ทำให้เกิดต้นทุนภาษีโดยไม่จำเป็น
เพราะการปันผลทุกครั้ง ต้องโดนหักภาษี ณ ที่จ่าย 10%

ถ้าเราต้องการเงินมาใช้จริงๆ เรามีทางเลือกในการ สั่งขายกองทุน เพื่อนำมาใช้จ่าย
ทำเป็น “ปันผลจำลอง” ได้ โดยไม่ต่องเสียภาษีหัก ณ ที่จ่าย 10% ตรงนั้นครับ

LEAVE A REPLY

Please enter your comment!
Please enter your name here