มือใหม่อยากจะเริ่มลงทุน ดูวีดีโอแล้วพอเข้าใจ แต่ไม่ละเอียด อยากถามและขอคำแนะนำจากคุณเอ ดังนี้

Port 1 (มรดก 1) อยากได้เป็นพอร์ตหุ้นแบบ Core & Satellite

  • Core อยากได้เป็น SET50
  • Satellite อยากได้ 1. หุ้น Active 2. หุ้นกลุ่มธนาคาร 3. หุ้นกลุ่มก่อสร้าง 4. หุ้นกลุ่มอสังหาฯ

Port 2 (มรดก 2) อยากได้เป็นพอร์ตหุ้นแบบ Core & Satellite

  • Core อยากได้เป็น SET50
  • Satellite อยากได้ 1. หุ้น Active 2. หุ้นกลุ่มธนาคาร 3. หุ้นกลุ่มเทคโนโลยี 4. หุ้นกลุ่มพลังงาน

Port 3 (Diversified Growth)

  • อยากได้เป็น 1. Thai Bond  2. Global Bond 3. หุ้นไทย 4. หุ้นประเทศพัฒนาแล้ว 5. ทองคำ

เป้าหมาย

พอร์ต 1 และ 2 เพื่อลงทุนเป็นมรดกให้ลูกคนละ 1 พอร์ต ระยะเวลา 10 ปีขึ้นไป
(เมื่อครบ 10 ปี จะยกพอร์ตให้ลูกไปลงทุนต่อด้วยตนเอง )

ส่วนพอร์ต 3 สำหรับตัวเองเพื่อสะสมรายได้นำไปช่วยเสริมค่าใช้จ่ายหลังเกษียณ
ทั้ง 3 พอร์ต จะลงประจำรายเดือน (แต่อาจจะไม่เท่ากันทุกเดือน) และอยากได้พอร์ตคนละค่าย

คำถามคือ

  1. ขอคำแนะนำ อย่างที่บอกใหม่จริง ๆ ในการที่จะเลือกกองจึงไม่มีข้อมูลที่มากและดีพอในการตัดสินใจ
    ในฐานะที่คุณเอ อยู่ตรงนี้มาก่อนจึงอยากขอให้คุณเอ แนะนำชื่อกองที่คิดว่าดีอย่างละ 2 กอง
    เพื่อประกอบในการตัดสินใจเลือก (กองตราสารหนี้ กองหุ้นไทย เทศ และกองทอง) ขอมากไปหรือเปล่า?
  2. ในการเปิดบัญชีเราจะต้องเปิดครบทุกกองหรือเปล่า ?

ขอขอบคุณล่วงหน้า และขอเป็นกำลังใจให้คุณเอที่ทำงานเพื่อบริการคนไม่ที่ไม่รู้และคนที่อยากรู้ ขอบคุณครับ


คำตอบ

ก่อนอื่นขอบคุณมากนะครับ ที่มาเรียนรู้ด้วยกัน แถมจัดพอร์ตมาตามที่ผมสอนเป๊ะๆ เลย ^-^
ส่วนท่านใดที่อ่านแล้วยังงงๆ ว่าพอร์ตแบบ Core & Satellite นั้นเป็นยังไง แนะนำให้เรียนเพิ่มก่อนที่นี่ครับ
http://www.a-academy.net/finance/personal-finance/16-selection-core-satellite/

ถ้ารู้แล้ว… มาเข้าคำตอบกันเลยแล้วกันนะครับ


คำตอบสำหรับคำถามที่ 1 : เรื่องการเลือกกองทุน

ถามว่า “ขอมากไปหรือเปล่า” ก็ต้องบอกว่า พอจะตอบไหวครับ
จริงๆ ผมจะเลี่ยงการแนะนำกองทุนแบบ “บอกชื่อกอง” ไปเลย
เพราะอยากให้รู้กระบวนการ และเหตุผลด้วย ว่าทำไมถึงเลือกกองทุนนี้

ดังนั้น ในการตอบนี้ ผมก็จะยังไม่บอกชื่อกองตรงๆ แต่จะแนะนำให้ไปดูวิดีโอเหล่านี้ครับ
ท้ายตอน จะมีการแสดงวิธีการเลือกกองให้ดู และมีการเอ่ยชื่อกองที่ผม “ถูกใจ” เอาไว้แล้ว
จะเลือกจากกองเหล่านั้นก็ได้ครับ


ส่วนกองทุนในส่วนที่เป็น Satellite นั้น ผมไม่ได้มีการพูดถึงเอาไว้ในวิดีโอที่สอน
จะขอให้ข้อมูลเพิ่มตามนี้นะครับ

จะเห็นว่าสำหรับพวก Sector Fund ที่จะใช้เป็น Satellite ในบ้านเรานั้น ยังมีไม่มากครับ
และกองที่ยกตัวอย่างของทาง KTAM นั้น เป็นกองทุน ETF (Exchange Traded Fund)
ซึ่งจะไม่สามารถซื้อ-ขายผ่านช่องทางธนาคาร และตัวแทนขายอื่นๆ ได้
แต่จะต้องเปิดพอร์ตหุ้นกับโบรกเกอร์ เพื่อดำเนินการซื้อ ETF ในตลาดหลักทรัพย์ เสมือนกับการไปซื้อหุ้นรายตัว

ทั้งนี้ต้องรบกวนให้ศึกษาเรื่องกองทุน ETF เพิ่มเติมจากลิ้งค์ต่อไปนี้ครับ

และขอแนะนำเพิ่มนิดนึงครับ เนื่องจากเห็นใส่รายชื่อของ Satellite Fund มาเยอะมาก
ผมไม่แน่ใจว่าจะลงทุนพร้อมๆ กันทั้งหมดเลยรึเปล่า เพราะถ้าลงทุนพร้อมกันทั้งหมด
เวลาหารออกมาต่อตัวแล้วมันก็จะเป็นสัดส่วนนิดเดียวเองนะครับ

อยากให้ลองทบทวนดูใน บทเรียนตอน Core & Satellite Strategy  ดูใหม่
จะเห็นว่า แม้ผมจะเตรียม Satellite ไว้เยอะ แต่เวลาลงทุนจริงๆ
ก็เลือกมาลงเป็นบางตัว ในสถานการณ์ที่แตกต่างกันไปนะครับ


คำตอบสำหรับคำถามที่ 2 : ในการเปิดบัญชีเราต้องเปิดครบทุกกองหรือเปล่า ?

ขอแบ่งคำตอบเป็น 2 กรณี ได้แก่

กรณีที่ 1 เปิดบัญชีกับ บลจ. โดยตรง

ในการเปิดบัญชีกองทุนกับ บลจ. ใดๆ นั้น
เราจะทำการเปิดบัญชีเพียง 1 บัญชี (เรียกว่า 1 เลขที่ผู้ถือหน่วย)
และเลขที่บัญชีนั้น สามารถซื้อกองทุนกี่กองทุนก็ได้ ภายใน บลจ. เดียวกันนั้นๆ ครับ

กรณีที่ 2 เปิดบัญชีกับตัวแทนขายที่เป็น Fund Supermart

โดยส่วนใหญ่ก็จะเป็นการเปิดบัญชีซื้อ-ขายกองทุนกับพวกบริษัทหลักทรัพย์ (บล.) ต่างๆ
ซึ่งจะมีบัญชีประเภทพิเศษที่เรียกว่า Omnibus Account ที่เราจะเปิดบัญชีกับ บล. นั้นๆ เพียง 1 บัญชี
แต่สามารถใช้บัญชีนั้น ซื้อกองทุนได้จากหลายๆ กอง จากหลายๆ บลจ.

หมายเหตุ บัญชี Omnibus นี้ จะใช้กับกองทุนเปิดทั่วไปเท่านั้น จะไม่ใช้กับกองทุนเพื่อลดหย่อนภาษี เช่น LTF/RMF ครับ

1 COMMENT

  1. คุณเอช่วยติดอาวุธทางปัญญาให้ฉันอย่างมากมายมหาศาลจริงๆ ขอบคุณมากค่ะ

LEAVE A REPLY

Please enter your comment!
Please enter your name here