ผมไม่ได้พูดถึงกฎระเบียบต่างๆ ที่กฎหมายบ้านเมืองบังคับ
หรือระเบียบต่างๆ ที่นายจ้าง ลูกค้า ตั้งให้เราทำตาม
แต่กำลังพูดถึง กฎเกณฑ์ภายใน ที่เราตั้งเป็นเงื่อนไขให้กับตัวเอง

ผมเคยมีกฎเกณฑ์กับตัวเองว่า
ต้องนอนให้ได้อย่างน้อย 8 ชั่วโมง
พอสี่ทุ่ม ถ้างานยังไม่เสร็จ ผมก็เริ่มเครียด
เพราะถ้าไม่นอนตอนนี้ มันก็จะได้ไม่ครบ 8 ชั่วโมง
แถมวันไหน มีงานเช้ามากๆ เช่นต้องไปขึ้นเครื่อง ตี 5
ก็จะรู้สึกเฟล เพราะจะเป็นวันที่เราได้นอนน้อย
บางครั้งเฟล ทั้งๆ ที่จริงๆ มันก็ไม่ได้เพลียหรอก
แต่มันเฟลที่ผิดกฎเกณฑ์ของตัวเอง

ต่อมามีครูบาอาจารย์ท่านหนึ่งที่ผมเคารพ ท่านโพสว่า

“อาจารย์ก็นอนไม่เยอะนะ หลวงปู่หลวงพ่อ ท่านก็นอนไม่เยอะ”

พอผมอ่าน ก็เกิดอาการ “เอ๊ะ” ว่ากฎเกณฑ์เรามันตึงเกินไปรึเปล่า
เพราะตั้งแบบนี้สินะ มันเลยเป็นเงื่อนไขให้เราทุกข์ฟรีๆ บ่อยครั้ง

อีกตัวอย่างหนึ่ง คือก่อนหน้านี้ ผมรู้สึกว่า ผมทำงานหนักไป
ทั้งงานส่วนตัวที่หาเลี้ยงชีพอยู่ และงานแบ่งปันทาง A-Academy
ผมเลยเริ่มตั้งกฎว่า ผมจะรับงานต่างๆ ไม่เกินเท่าไรต่อเดือน
และผมจะทำ A-Academy เวลาไหน แค่ไหน

แต่หลายๆ ครั้งงานมันก็เข้าเยอะมาก
และเป็นงานที่ผูกพันต่อเนื่อง ผมไม่สามารถปฏิเสธได้
ทำให้มันผิดกฎเกณฑ์ที่ผมตั้งไว้
กลายเป็นว่าเดือนนั้น ผมเป็นคนอมทุกข์อีกแล้ว
คือมัวแต่คิดว่า งานเยอะๆๆ ต้องเหนื่อยๆๆ ชีวิตยุ่งๆๆ

เพิ่งจะเมื่อวานนี้เอง ที่ผมได้คุยกับครูท่านหนึ่ง
ซึ่งท่านออกสอนตามเรือนจำ/สถานพินิจต่างๆ
เพื่อปรับความคิด และพลิกชีวิตเด็กๆ น้องๆ ให้ออกมาเป็นคนดี
ท่านบอกผมว่า

“ไม่เหนื่อยหรอกเอ ถ้าสิ่งที่เราทำมันดี ทำทุกวันก็ยังน้อยไป”

ประโยคนี้ทำผมจุกอีกครั้ง เพราะย้อนคิดถึงกฎต่างๆ ของตัวเอง
ว่าเราตั้งมาเป็นเงื่อนไขให้ตัวเองทุกข์เองแท้ๆ

ท่านยังสอนอีกว่า

“กฎเกณฑ์ต่างๆ เราเป็นคนกำหนดขึ้นมาเอง และยอมรับมันเอง”

นั่นคือ จริงๆ มันไม่ได้มีอะไรหรอก
ยืดหยุ่นกับมันได้ ปรับเปลี่ยนมันได้ อย่ายึดกับของเดิมมากไป
และถ้าจะให้ดี อย่ามีกฎเกณฑ์กับอะไรเยอะ ถ้าเจตนาเราดี ก็มุ่งมั่นทำไปเถอะ

ต่อไปผมคงต้องทบทวน และตั้งคำถามกับกฎเกณฑ์ต่างๆ ของผม
ว่ามันตั้งไว้เหมาะหรือไม่ ? มันควรมีหรือไม่ ? มันส่งเสริมให้ตัวเองทุกข์ร้อนง่ายเกินไปหรือไม่ ?

แต่อย่าได้เข้าใจผิดว่าให้ทลายทุกกฎเกณฑ์ทิ้งนะครับ บางอย่างมันดี ก็เก็บเอาไว้ ไร้สาระก็เอาทิ้งไปครับ

1 COMMENT

  1. เรื่องนี้ผมเข้าใจ และเป็นเหมือนกันครับ บอกยากจิงๆว่าแบบไหนเหมาะไหม ต้องค่อยๆปรับกันไปจิงๆครับ เหมือนกับว่าเราต้องบอกตัวเราเองได้ว่า อันนี้ต้องเข้ม อันนี้ผ่อนได้

LEAVE A REPLY

Please enter your comment!
Please enter your name here